วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การปลูกมะขามหวาน








การปลูกมะขามหวาน  มะขาม มีแหล่งกำเนิดในอัฟริกาเขตร้อน  เป็นไม้ป่าแถบสะวันนาได้นำเข้าไปปลูกใน อินเดีย   และต่อมาได้แพร่กระจายทั่วไปในเอเชียและเขตร้อนอื่น ๆ  ประเทศไทย จัดว่าเป็นแหล่งปลูกมะขามเปรี้ยวและมะขามหวานที่ใหญ่ที่สุด   พบว่ามีการ ปลูกมะขามหวานกันมานานแล้วในภาคเหนือของไทย   โดยเฉพาะที่อำเภอหล่ม เก่า  จังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดมะขามหวานพันธ์หมื่นจง  สีทอง  และ อินทผลัม  ที่มีชื่อที่สุด   นอกจากนั้นยังพบในบางจังหวัดทางภาค อีสาน  ปัจจุบันได้มีการคัดเลือกขยายพันธุ์และปลูกเป็นอาชีพเกือบทุกภาคของ ประเทศไทย  คาดว่าในอนาคตอาจจะเป็นไม้ผลเศรษฐกิจทำรายได้ให้แก่ประเทศ









การปลูกกล้วยน้ำหว้า


การปลูกกล้วยน้ำว้า
การปลูกกล้วยน้ำว้ากล้วยเป็นพืชเมืองร้อนชนิดหนึ่งถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชที่คนส่วนใหญ่รู้จักดีมากที่สุด เพราะสามารถใช้ทุกส่วนของต้น ผลสามารถใช้รับประทานผลสุกและประกอบอาหารได้มากชนิด รวมทั้งผลิตภัณฑ์สามารถส่งขายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ถ้าหากมีการปรับปรุงคุณภาพให้ดีกว่าเดิม และมีการเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จะสามารถทำรายได้ให้ประเทศได้มาก กล้วยมีหลายชนิด ที่รู้จักกันดีและปลูกกันแพร่หลายในบ้านเรา ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่ายขึ้นได้ในที่ทั่วไป โดยเฉพาะอากาศร้อนชื้นและบริเวณที่มีดินฟ้าอากาศสม่ำเสมอจะสามารถเจริญเติบโตติดต่อกันไป และตกเครือตลอดทั้งปี

กล้วยน้ำว้าเป็นพืชบ้านที่ทุกคนรู้จักดี ปลูกง่ายโตเร็ว.. ออกดอกผล ให้แล้วก็จากไปพร้อมกับทิ้งทายาทใหม่ ขยายพันธุ์มากมาย กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ เป็นผัก เป็นอาหารคาว อาหารหวาน อาหารว่าง ส่วนต่าง ๆ ของกล้วยใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย เช่น อาหารสัตว์ เป็นภาชนะ เป็นวัสดุอุปกรณ์ เป็นของเล่น และเป็นส่วนสำคัญในพิธีกรรมหลายอย่าง


ต้น ลำต้นสูงไม่เกิน 3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียวอ่อน มีประดำบ้างเล็กน้อย
ใบ ก้านใบมีร่องค่อนข้างแคบ เส้นกลางใบสีเขียว
ดอก ก้านช่อดอกไม่มีขน ปลีรูปไข่ค่อนข้างป้อม ปลายป้าน ด้านนอกสีแดงอมม่วงมีนวลหนา ด้านในมีสีแดงเข้ม
ผล เครือหนึ่งมีประมาณ 7 - 10 หวี หวีหนึ่ง มี 10 - 16 ผล ก้านผลยาว เปลือกหนา สุกมีสีเหลืองเนื้อสีขาว รสหวาน ไส้กลางมีสีเหลือง ชมพูหรือขาว ทำให้แบ่งออกเป็นกล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยน้ำว้าแดง และกล้วยน้ำว้าขาว

การปลูกไผ่เลี้ยง

พันธุ์ไผ่เลี้ยง           1.พันธ์หนัก เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตหน่อได้ปกติในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน – สิงหาคม) แต่ถ้าจะผลิตเป็นหน่อไผ่นอกฤดูหรือต้นฤดูฝน ผลผลิตที่ได้จะไม่คุ้มกับทุน 2.พันธุ์เบา เป็นพันธุ์ที่สามารถให้หน่อไผ่ ตกในช่วงฤดูฝน และสามารถผลิตเป็นหน่อไผ่นอกฤดูได้ดีมาก เพราะมีลักษณะเด่น คือ ถ้าได้น้ำ ได้ปุ๋ยแล้วจะให้หน่อทันที ถ้าเกษตรกรปลูกมีการบำรุงรักษาดี ผลผลิตก็ยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น จึงขอแนะนำให้ผู้ที่จะปลูกไผ่เลี้ยงขายหน่อ ควรปลูกพันธุ์เบา

 
การคัดเลือกพื้นที่ปลูกสวนไผ่
สภาพพื้นที่ที่เหมาะสำหรับปลูกไผ่เลี้ยง ควรมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย ถ้าเป็นดินเหนียว ดินโคกลูกรัง การเจริญเติบโต และการให้หน่อจะไม่ดี



วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ผักหวานบ้าน

 
 
 
ต้องมีการเก็บแบบสลับกันเพื่อที่จะเก็บได้ทุกวันซึ่งผักหวานที่เก็บยอดแล้วจะสามารถเก็บได้อีกครั้งประมาณ 14 วัน
จากนั้นก็นำมาตัดแต่งให้ยอดมีความยาวประมาณ 25 ซม.แล้วมัดเป็นกำๆ (กำละประมาณ 2 ขีด)
จะขายได้ในราคากำละประมาณ 6-7 บาท
เทคนิคที่สำคัญในการปลูกผักหวานคือเร่งให้ผักหวานออกยอดเร็วคือการตัดแต่งกิ่งทุกครั้งที่เก็บยอดหลังจากนั้นให้ฉีดพ่นปุ๋ยน้ำชีวภาพหรือปุ๋ยเกล็ดก็ได้จะทำให้ได้ยอดผักหวานที่สวย ยอดยาว ยอดอวบใบสวย
ข้อดีของการปลูกผักหวานบ้าน

ผักหวานปลูกครั้งเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวได้นานหลายปีถ้ามีการดูแลรักษาที่ดี
ผักหวานบ้านเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อโรคทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา
ตลาดมีความต้องการสูงมีเท่าไหร่ก็ขายได้หมด
ราคาดีมีความคงที่
ให้ยอดทั้งปีไม่มีการทิ้งช่วงหรือรอฤดูกาล

ผักหวานบ้าน มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายมีสารอาหารหลายชนิด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซี มีเบต้า-แคโรทีน สารต้านมะเร็งเป็นตัวนำ ตามด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัสเพื่อกระดูกแข็งแรง ต่อด้วยแมกนีเซียมช่วยในการยืดหดของกล้ามเนื้อ

 

ส่วนของผักหวานบ้านที่นำมาใช้กินเป็นผัก ก็คือ ใบและยอดอ่อน โดยใช้เป็นผักจิ้ม ซึ่งนิยมลวกให้สุกเสียก่อน หรือนำไปแกง เช่น แกงเลียง หรือแกงจืด นอกจากนั้นยังนำไปผัด เช่น ผัดน้ำมันหอย เป็นต้น น่าสังเกตว่า ชนิดอาหารที่ปรุงจากผักหวานบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผักจิ้ม แกงเลียง แกงจืด หรือผัดน้ำมันหอย ล้วนแล้วแต่มีเครื่องปรุงแต่งน้อย เพต้องการให้ได้รสชาติของผักหวานบ้านมากเป็นพิเศษ เพราะถือว่ามีรสชาติดีกว่าผักทั่วไป หากสมาชิกครูบ้านบอกได้ผ่านมาทางยโสธร ตอนเย็นที่ตลาดสดบ้านตาดทอง มีผักหวานบ้านสดๆ ใหม่ๆ มากมาย (ชาวบ้านแถวนี้เขาปลูกผักขาย) ราคาก็แสนถูก ถาดละ 10 บาท (กองใหญ่) ถ้าคุณนำไปทำอาหารร่วมกับไข่มดแดง (ที่ตลาดตาดทองมีเยอะแยะ สด ๆ จากรังเช่นกัน) แซบอย่าบอกใครเชียว

ประโยชน์ด้านอื่นๆของผักหวานบ้าน
นอกจากด้านอาหารแล้วผักหวานบ้านยังมีสรรพคุณด้านยาหลายประการ เช่น ในตำราสรรพคุณสมุนไพร ระบุว่า
ราก : เป็นยาถอนพิษร้อน พิษไข้ พิษทราง ถอนพิษสำแดง กินของแสลงเป็นพิษ แก้ขัดเบา แก้ไอ แก้คางทูม คอพอก แผลฝีใบ : ปรุงเป็นยาเขียวกระทุ้งพิษ เป็นยาประสะน้ำนม ช่วยมดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น แก้แผลฝี
 

ผักหวานป่า


ข้อ 10 เคล็ดลับการดูแล

  -การให้ปุ๋ยให้ปุ๋ยคอกเท่านั้น และที่มันชอบคือมูลโคที่เก็บสักครึ่งปี ผ่านการย่อยสลาย ให้ช่วงต้นฝนโรยรอบๆทรงพุ่ม ต้นละ 5 - 10 กก แล้วแต่ขนาดต้น มูลสัตว์อื่นต้องหมักอย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ไม่ควรให้เป็นดีที่สุด

   -ผักหวานชอบดินร่วน ดินลูกรัง หรือดินที่มีการระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวดินที่ระบายน้ำไม่ดี ไม่ชอบที่แฉะ เราจะพบผักหวานในป่าเต็งรัง ป่าละเมาะ ป่าที่มีการทิ้งใบในหน้าแล้ง หรือ พบมากตามภูเขาแถว จ.ลำปาง ลำพูน ตาก กาญจนบุรี ที่มีหน้าแล้งชัดเจน เราจะพบว่าไฟไหม้ป่าจากล่าสัตว์และการเก็บของป่า ที่สำคัญก็คือ ผักหวาน เมื่อมีผักหวานคนเก็บของป่าจะใช้ไฟเผาเอาไข่มดแดงไฟก็จะไหม้ป่า และการเผาป่าของคนเก็บของป่าเพื่อจะให้ เห็ดถอบ หรือ เห็ดเผาะ มันเป็นเห็ดดิน พอเผาเสร็จ เมื่อฝนตกมันจะเกิดดีขึ้น คนเก็บของป่าเล่าให้ฟัง ตอนแรกไปทำงานทางเหนือสงสัยว่าไฟทำไมไหม้ป่าบ่อยพอไปถามคนเก็บของป่าเลยรู้ครับ การปลูกผักหวานช่วยลดโลกร้อน ตามกระแสรักโลกครับ

   -การบังคับผักหวานแทงช่อ ง่ายๆ คือ การรูดใบผักหวานจากกิ่งให้หมด จากนั้นรดน้ำวันเว้นวันครับ

  -ศัตรูพืชพอมีแต่ไม่มาก ที่พบคือ เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยไฟ ที่ชอบมาดูดน้ำเลี้ยงตอนต้นยังเล็ก ในช่วงที่แล้งจัดๆ ฝนทิ้งช่วงนานๆ



   -สาเหตุที่ผมปลูกผักหวานเพราะผมขี้เกียจครับ ตอนเด็กๆผมอยู่ลพบุรีช่วงหน้าแล้งก็จะไปหาเก็บผักหวานป่า ตามป่าละเมาะ หรือชายเขา ไกลก็ไกล ร้อนมากช่วง เมษายน แดดโคตรร้อน มันจะมีอยู่ไม่กี่จุด และไม่มีการบอกกัน ถ้าไปช้าจะโดนเก็บไปก่อน เดินไปฟรี ถ้ารอให้มันออกช่อใหม่ก็ช้าไป จึงเป็นที่มาของการพยายามปลูกผักหวานของผม ตอนนี้หน้าแล้งผมมีผักหวานกินตลอด ทุกปี

   -สุดท้าย ถ้าข้อมูลทีประโยชน์กับท่าน ก็ขอยกความดีให้คุณพ่อของผม ที่ปลูกและดูแล ผมเพียงหาเมล็ดให้ท่านปลูกเท่านั้นเองครับ เมื่อสวนหลังบ้านผมมีผักหวานโตขึ้น ปีหน้าจะเอามารายงานผู้ที่สนใจครับ